ทีวี LG CINEMA 3D ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจากสื่อมวลชนและผู้บริโภคทั่วไปในขณะนี้เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ทีวี 3 มิติแบบทั่วไปหรือที่เรียกว่า Shutter Glass ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดในหลายๆ ด้าน “LG CINEMA 3D” พัฒนามาจากเทคโนโลยี ที่เรียกว่า Film Patterned Retarder หรือเรียกสั้นๆว่า FPR ซึ่งเทคโนโลยี FPR นี้ให้ภาพ 3 มิติที่เป็นธรรมชาติมากกว่าและให้สีสันที่สว่างด้วยวิธีที่ทำให้ภาพ 3 มิติลอยออกมาได้มากที่สุด LG CINEMA 3D จึงเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปมากกว่าทีวี 3 มิติแบบทั่วไป เป็นอย่างมาก ถือเป็นทีวี 3 มิติแห่งอนาคตอย่างแท้จริง
ลองมาดูข้อแตกต่างระหว่างทีวี LG CINEMA 3D และทีวี 3 มิติแบบทั่วไปว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ภาพกะพริบ vs. ภาพไม่กะพริบ (Flickered Images vs. Flicker-free Images)
ทีวี 3 มิติแบบทั่วไป (แบบ SG; Shutter Glasses) ทำงานโดยการปิด-เปิดเลนส์แว่น 3 มิติสลับกันไปมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กำเนิดภาพ 3 มิติ การเปิด-ปิดเลนส์แว่นอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เกิดภาพกะพริบ ส่งผลให้ตาของผู้ชมทำงานหนักจนส่งผลกระทบก่อให้เกิดอาการล้าสายตา เวียนศีรษะ รวมไปถึงการคลื่นไส้ และหลังจากการเปิดปิดเลนส์ซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เกิดภาพซ้อนทับเหลื่อมกันระหว่างภาพซ้ายและภาพขวา ทำให้เกิดอาการทีเรียกว่า crosstalk นั่นเอง
แต่ทีวี LG CINEMA 3D นั้นเป็นทีวีที่ภาพไม่กะพริบและไม่มีการเหลื่อมซ้อนของภาพ ทำให้ดูแล้วสบายตามากกว่าทีวี 3 มิติแบบทั่วไป LG CINEMA 3D ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าโดยมีพื้นฐานมาจากฟิล์มโพลาไรซ์ที่เคลือบอยู่บนหน้าจอทีวี แทนที่การใช้การเปิด-ปิดเลนส์แบบเดิมๆ ทีวี LG CINEMA 3D ได้รับการรับรอง จากสถาบันมาตรฐานระดับโลกชั้นนำ TÜV และ Intertek ว่าเป็นทีวี 3 มิติที่ไม่ทำให้เกิดภาพกะพริบ (Flicker-Free 3D TV)
ทีวี 3 มิติแบบทั่วไป (SG Type) | ทีวี LG CINEMA 3D (FPR Type) | |
วิธีการกำเนิดภาพ 3 มิติ | ให้กำเนิดภาพ 3 มิติ ด้วยการเปิด-ปิดเลนส์แว่น 3 มิติ ซ้าย-ขวาอย่างต่อเนื่อง | ให้กำเนิดภาพภาพ 3 มิติ ด้วยฟิล์มโพลาไรซ์ที่อยู่บนหน้าจอทีวี |
ผลลัพธ์ | ล้าสายตา ปวดศีรษะ ปวดตา คลื่นไส้เนื่องจากอาการภาพกะพริบ | Eyes are more relaxed and you can watch 3D TV for a longer time |
แว่นตาน้ำหนักมาก vs. แว่นตาน้ำหนักเบา (Heavy Glasses vs. Light & Comfortable Glasses)
แว่นตาของทีวี 3 มิติแบบทั่วไป (SG Type) มีน้ำหนักที่มากด้วยเหตุผลทางเทคนิค เพราะแว่นตาต้องมีตัวรับส่งภาพที่ซิงค์กับทีวี และต้องใช้แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้แว่นหนัก การสวมใส่ในช่วงแรกๆ อาจไม่ทำให้รู้สึกแตกต่างกับแว่นตาทั่วๆ ไป แต่หากสวมใส่เป็นเวลานานจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างว่าสวมใส่ไม่สบาย แล้วใครจะยังอยากดูทีวี 3 มิติอยู่อีก
[ซ้าย: แว่นตาของทีวี 3 มิติแบบทั่วไปที่ถูกแยกชิ้นส่วนออกมา / ขวา: แว่นตาของทีวี LG CINEMA 3D ที่ถูกแยกชิ้นส่วนออกมา]
แว่นตาของทีวี LG CINEMA 3D มีน้ำหนักที่เบากว่าแว่นตาของทีวี 3 มิติแบบทั่วไป ความแตกต่างหลักๆ มาจากการที่เทคโนโลยี FPR นั้นไม่จำเป็นต้องซิงค์แว่นกับทีวี จึงไม่ต้องมีตัวรับส่งสัญญาณติดที่แว่น แว่นจึงไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ นั่นหมายความว่า แว่นของ LG CINEMA 3D ปราศจากอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง แอลจียังได้มีการพัฒนาเลนส์แบบ clip-on สำหรับผู้บริโภคที่สวมใส่แว่นสายตา LG CINEMA 3D จึงเป็นทีวี 3 มิติที่ยกระดับประสบการณ์ 3 มิติได้ยอดเยี่ยมอย่างที่ทีวี 3 มิติควรจะเป็น
ทีวี 3 มิติแบบทั่วไป (SG Type) | ทีวี LG CINEMA 3D (FPR Type) | |
Characteristic | แว่นตา 3 มิติเป็นอุปกรณ์ที่ให้กำเนิดภาพ 3 มิติโดยตรง ไม่สามารถดูทีวี 3 มิติได้ หากสัญญาณระหว่างทีวีและแว่นโดนรบกวนจากการเปลี่ยนตำแหน่งในการรับชม
|
กำเนิดภาพ 3 มิติด้วยหน้าจอทีวีเป็นหลัก สามารถดูทีวี 3 มิติได้ แม้จะมีการเปลี่ยนตำแหน่งในการรับชม |
Parts | หน้าจอ, แว่นตา 3 มิติแบบแอลซีดี, แบตเตอรี่, โมดูลสำหรับชาร์จแบตเตอรี่, สวิตช์เปิด-ปิดแว่นตา | หน้าจอโพลาไรซ์ แว่นตา 3 มิติ |
Weight | มากกว่า 40 กรัม | 16 กรัม(น้ำหนักน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของแว่นแบบ SG) |
Synchronization | แว่นตาสามารถซิงค์ได้กับทีวีทีละ 1 ตัว ไม่สามารถซิงค์กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ | แว่นตา 3 มิติสามารถซิงค์ได้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ทีวี โปรเจคเตอร์ laptop และหน้าจอมอนิเตอร์ |
ภาพ 3 มิติที่มืด vs ภาพ 3 มิติที่สว่าง (Darkened 3D Images vs. Bright 3D Images)
คุณคงเคยได้รับชมภาพจากทีวี 3 มิติแล้วสังเกตุเห็นว่าภาพ 3 มิติที่ได้นั้นมืดกว่าการดูภาพเดียวกันแบบ 2 มิติอยู่พอสมควร ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับทีวี 3 มิติแบบทั่วไป (SG Type) ที่ใช้แว่นแบบเปิด-ปิดเลนส์ ทำให้ภาพที่ได้มืดกว่าภาพต้นฉบับแต่ทีวี LG CINEMA 3D แสดงภาพที่สว่างกว่า นอกจากนี้ ด้วย 3D Light Boost ซึ่งเป็นฟิล์มบางๆ ที่ถูกเคลือบไว้ที่หน้าจอ ช่วยกระจายแสงแบ็คไลท์ให้สว่างถึงขีดสุด ให้ภาพที่สว่างกว่าทีวี 3 มิติแบบทั่วไปเกือบ 2 เท่า
ทีวี 3 มิติแบบทั่วไปที่ปกติสร้างภาพ 3 มิติที่ 50 ภาพต่อวินาที (50 Hz) แต่ทีวี LG CINEMA 3D สามารถสร้างภาพ 3 มิติที่ 200 ภาพต่อวินาที (200 Hz) ดังนั้นทีวี LG CINEMA 3D จึงสร้างภาพได้มากกว่าทีวี 3 มิติแบบทั่วไปถึง 4 เท่า ทำให้ภาพที่แสดงมีความลื่นไหลและคุณภาพดีกว่า
ตำแหน่งการรับชมที่ถูกกำหนดไว้ vs. ตำแหน่งการรับชมที่ยืดหยุ่น (Restricted Viewing Position vs. Flexible Viewing Position)
ข้อเสียของทีวี 3 มิติแบบทั่วไปอีกอย่างคือเวลาที่นั่งรับชมจะต้องนั่งหน้าตรง คอตรงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะว่าทีวีและแว่นตาจะต้องรับ-ส่งสัญญาณซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดภาพ 3 มิติ หากเอียงคอดูทำให้มุมมองการรับชมถูกเปลี่ยนและคุณภาพของภาพที่ได้จะลดลงไปกลับกันทีวี LG CINEMA 3D ที่ใช้เทคโนโลยี FPR นั้นไม่ต้องการการรับส่งสัญญาณระหว่างทีวีและแว่นตา ดังนั้นคุณจึงสามารถรับชมทีวี 3 มิติได้ทุกท่วงท่า ไม่ว่าจะเป็นการเอนหลังหรือนอนตะแคง ด้วยมุมมองในการรับชมที่ยืดหยุ่นได้นี้ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับทีวี 3 มิติได้อย่างเต็มอรรถรส และหากมีผู้รับชมจำนวนมาก ก็สามารถนั่งเรียงแถวกันดูได้อย่างไม่ต้องอึดอัดเพราะต้องนั่งกระจุกกันเป็นกลุ่มตรงกลาง ทำให้ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์ 3 มิติได้พร้อมๆ กัน
สรุปความแตกต่างระหว่างทีวี 3 มิติแบบทั่วไปและทีวี LG CINEMA 3D ได้ตามตารางข้างล่างนี้
Conventional 3D TV (SG Type) | LG CINEMA 3D TV (FPR Type) | |
3D Glasses | ∙ ทำให้เวียนศีรษะ ปวดตา ล้าประสาท คลื่นไส้ เนื่องจากการกะพริบของแว่น
∙ แว่นประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์มากมาย ∙ ดูทีวีได้เพียงเครื่องเดียวต่อแว่น 1 อัน ∙ น้ำหนักมากกว่า 40 กรัม |
∙ ดูสบายตามากกว่า เพราะไม่มีการกะพริบของภาพ
∙ แว่นไม่มีส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ ∙ ดูอุปกรณ์ 3 มิติอื่นๆ พร้อมกันได้ทั้งโปรเจคเตอร์ แลปท็อป และอุปกรณ์อื่นๆ ∙ น้ำหนัก 16 กรัม |
Screen Brightness | ∙ ภาพดำมืด
∙ Brightness: 80nits |
∙ ภาพสว่างสดใสด้วย 3D Light Boost
∙ Brightness: 150nits
|
Motion3D Interpolation | 50Hz | TruMotion 240/200 Hz |
Viewing Positions | ไม่สามารถรับชมภาพ 3 มิติได้ในมุมมองอื่นๆ นอกจากมุมมองที่กำหนด | รับชมภาพ 3 มิติได้ในทุกท่วงท่าในระดับสายตา |
Viewing Angles | มุมมองการรับชมแนวกว้างน้อยกว่า 80 องศา | มุมมองการรับชมแนวกว้างสูงสุดเกือบถึง 180 องศา |
จึงเห็นได้ว่าทีวี LG CINEMA 3D นั้นเป็นทีวี 3 มิติที่เหนือกว่าอย่างแท้จริง ถูกสร้างมาเพื่อการแสดงภาพ 3 มิติอันสมบูรณ์แบบด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย จากเทคโนโลยี FPR และกำลังถูกพัฒนาต่อยอดไปสู่ทีวี 3 มิติที่ไม่ต้องใช้แว่น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า คุณจะรู้สึกเต็มอิ่มกับประสบการณ์ความบันเทิงในรูปแบบ 3 มิติด้วย LG CINEMA 3D ได้ขนาดไหน
เกี่ยวกับคุกกี้บนไซต์นี้
โดยการเข้าใช้เว็บไซต์นี้ ท่านยอมรับเงื่อนไขการใช้คุกกี้ของเรา เราใช้คุกกี้เพียงเพื่อปรับปรุงการใช้งานให้เหมาะสม วิเคราะห์การเข้าใช้เว็บไซต์ และเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของท่าน
ทั้งนี้ท่านสามารถปิดการตั้งค่าของคุกกี้ได้ เพื่อระงับการเก็บข้อมูลทุกอย่างของคุกกี้ในอนาคต อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ศูนย์การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
ความเป็นส่วนตัวของคุณ
เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ใดก็ตาม ไซต์นั้นอาจจัดเก็บหรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในรูปแบบ
ของคุกกี้ ข้อมูลนี้อาจเกี่ยวกับคุณ การตั้งค่าของคุณ อุปกรณ์ของคุณ หรือเพื่อช่วยให้ไซต์ทำงานอย่างที่คุณต้องการ ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บตามความต้องการส่วนบุคคลได้มากยิ่งขึ้น คุณสามารถปฏิเสธไม่ให้คุกกี้บางประเภททำงานได้ คลิกที่หัวข้อประเภทอื่นๆ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมและเปลี่ยนการตั้งค่าเริ่มต้นของเรา อย่างไรก็ตาม คุณควรทราบว่าการบล็อกคุกกี้บางประเภทอาจส่งผลต่อการใช้งานไซต์และบริการที่เรามีให้ใช้งาน Cookie settings
8 thoughts on “สัมผัสถึงความแตกต่าง เปรียบเทียบระหว่าง: ทีวี LG CINEMA 3D vs. ทีวี 3 มิติแบบทั่วไป”
แจ่มจริงๆ
Pingback: รีวิว Major Cineplex พรีเมียมคอนเทนต์ล่าสุดจาก LG SMART TVLG CINEMA 3D Smart TVLG Blog
Pingback: ภาพ 3 มิติ เป็นอย่างไร?? ที่นี่มีคำตอบLG Blog
ซื้อมาได้2วันแล้ว แจ่มจริง
Pingback: Bail Bonds Los Angeles
ชอบๆ
สุดยอด
ดูทีวีปกติได้ดีไหม?