เลือกขนาด BTU แอร์ให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้อง

สวัสดีค่ะทุกคน ตอนรับหน้าร้อนในช่วงเดือนมีนาคม หลายๆ คนก็คงอยากจะได้แอร์มาติดบ้านกันสักตัวใช่ไหมคะ แต่ก็ยังเกิดคำถามว่าจะเลือก BTU แอร์แบบไหนให้เหมาะกับห้องของเราดีล่ะ? เพราะแอร์นั้นมีขนาด BTU ให้เลือกมากมายหลากหลายเหลือเกิน วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับเลือกขนาด BTU แอร์ให้เหมาะสมกับห้องมาฝากกันคะ

                BTU คือ ขนาดทำความเย็นของแอร์ ย่อมาจาก British Thermal Unit ซึ่ง 1 ตันความเย็นจะเท่ากับ 12,000 BTU ต่อชั่วโมง ดังนั้นการเลือกขนาด BTU เลยมีความสำคัญอย่างมากสำหรับการเลือกซื้อแอร์ และการคำนึงถึงขนาดห้องที่เราจะติดตั้งแอร์ก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญเช่นกัน เมื่อเราทราบขนาดห้องที่ชัดเจนจะทำให้ง่ายต่อการคิดค่า BTU เพื่อเหมาะสมกับการใช้งาน และช่วยคุณประหยัดค่าไฟเพิ่มอีกด้วย เรามาดูการเลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละห้องกันข้างล่างนี้เลยคะ

สูตรการคำนวณ BTU

BTU =  พื้นที่ห้อง ( กว้าง x ยาว ) x ความแตกต่าง 

      ความแตกต่างแบ่งได้ 2 ประเภท  

      600 – 700 = ห้องที่มีความร้อนน้อยใช้เฉพาะกลางคืน 
      700 – 800 =ห้องที่มีความร้อนสูงใช้กลางวันมาก

นอกจากนี้แล้วควรพิจรณาปัจจัยเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย

1. ทิศทางของห้องโดนแดดมากน้อยแค่ไหน

2. หลังคามีฉนวนกันความร้อนหรือไม่

3. จำนวนคนที่ใช้งานในห้องนั้น

แอร์ที่มีขนาด BTU สูงเกิน – จะทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย เนื่องจากมีการทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ประสิทธิภายในการทำงานลดลง และยังส่งผลให้มีความชื้นภายในห้องสูง อาจทำให้เราป่วยหรือไม่สบายได้ อีกทั้งเปลืองค่าไฟเอามากๆ

แอร์ที่มีขนาด BTU ต่ำเกินไป – จะทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลาและทำงานหนักเกินไป เพราะอุณหภูมิความเย็นไม่ตรงตามที่ได้ถูกกำหนดไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้แอร์เสียง่าย และเปลืองค่าไฟเช่นกัน

                ทั้งหมดนี้ก็เป็นทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้ในการเลือกขนาด BTU แอร์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ของห้อง เพราะฉนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อแอร์ คุณควรรู้ขนาดของห้องที่จะติดตั้งแอร์ก่อน เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าไฟมากขึ้น พอใช้ไปเรื่อยๆ เราจะรู้เองค่ะว่า ค่าไฟนี่แหละที่รวมๆ กันแล้วจะแพงกว่าค่าแอร์เสียอีก แล้วเจอกันในบทความถัดไปนะคะ